ทำเว็บด้วย Opencart, Magento, Wordpress ย้ายมาใช้ Shopify รองรับ Omise ประหยัดต้นทุนระยะยาวมากกว่า

Magento Opencart Shopify Wordpress

ทำไมลูกค้าที่ทำเว็บด้วย Opencart, Magento, Wordpress ถึงย้ายมาใช้ Shopify ซึ่งปกติรองรับ Omise Payment Gateway และใช้บริการกับ JadeCommerce.center พูดถึงการย้ายระบบ Ecommerce มาใช้ Shopify นี่เป็นกระแสที่เกิดขึ้นทั่วโลก ไม่ใช่แต่เฉพาะในประเทศไทย

สามารถพิมพ์ค้นหาใน Google ในภาษาต่างชาติได้ เช่น Opencart VS Shopify , Magento VS Shopify หรือ Wordpress VS Shopify แล้วลองอ่านให้ทะลุถึงสาเหตุที่พวกเขาเหล่านั้นย้ายมาใช้ Shopify จากเจ้าของกิจการจริงๆ ไม่ใช่แค่คนทำเว็บด้วยระบบนั้น ระบบนี้มาเขียนบอกว่าระบบไหนดีกว่าอะไร เพราะอันที่จริงแล้ว ระบบที่ตอบโจทย์เจ้าของกิจการมากที่สุดขึ้นอยู่กับธุรกิจและต้นทุน

หากคุณมีเงินเยอะๆ จ้างพัฒนา ดูแลระบบ หลักเป็นแสน เป็นล้านต่อปี คุณก็ทำได้ เวลามีปัญหาโปรแกรมเมอร์ก็ช่วยคุณได้ถ้าคุณมีทุน หรือบางคนอาจมีทุนแต่ที่ย้ายมา Shopify เพราะต้องการประหยัดต้นทุนค่าใช้จ่ายในระยะยาว ซึ่งประหยัดได้มากกว่า

Opencart ย้ายมา Shopify

ตามภาพเป็นลูกค้าเจ้าหนึ่ง เนื่องจากต้นทุนในระยะยาว ระบบที่ใช้มา 6-7 ปีเริ่มเก่า การอับเกรดทำได้ไม่ง่าย ต้องทั้งทำเอง ทั้งจ้างคนทำ มีค่าใช้จ่ายสูง ต้องจ่ายเรื่อยๆ จึงต้องการย้ายมาใช้ Shopify ส่วน Hard code คือจุดที่เขียนโค๊ดยากมีความซับซ้อนสูง ในการทำอะไรกับระบบ เช่นการอับเกรด plug in ที่ระบบเชื่อมต่อ การทำ integration ผ่าน API หรือการปรับแต่งต่างๆจุกจิก ที่ใช้การเขียนโค๊ดยากๆที่มีค่าใช้จ่ายสูงเพื่อให้ระบบใช้งานได้ดีตามฟังก์ชั่นที่ต้องการ

นอกจากนี้ยังมีเรื่องการดูแลรักษาระบบให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์พร้อมใช้งานซึ่ง Shopify ระบบอับเกรดสม่ำเสมอ เจ้าของร้านไม่ต้องทำอะไรเลย แม้กระทั่ง App ก็อับเกรดเอง ส่วนแม่แบบนั้น ลูกค้าต้องอับเกรดเอง หรือจ้างคนทำแต่ก็นานๆที ตั้งแต่ผมทำงานเกี่ยวกับ Shopify มาหลายปียังไม่มีใครต้องอับเดทแม่แบบเลย ระบบก็ยังใช้งานได้ดี

ต้องการย้ายจาก Opencart มาใช้ Shopify

ตามภาพนี้เป็นบทสนทนาเก่าเมื่อตอนที่ Shopify ยังใช้งานได้แค่ PayPay Express Checkout และ 2Checkout ซึ่งขณะนี้สามารถใช้ Omise ได้แล้ว และเชื่อว่าจะมี Payment Gateways ชั้นนำตามมาอีกมากในอนาคต

ซึ่งก่อนหน้านี้ เรามีลูกค้าย้ายมาจาก Opencart มาใช้ Shopify แล้วคือ gmpackaging.co.uk เป็นลูกค้าจากประเทศอังกฤษ มีจำนวนสินค้าเยอะมากเป็น 1,000 รายการได้ ทางเราช่วย migrate ข้อมูลทั้งหมดจากระบบ Opencart มาที่ Shopify

ยังมี color-me-pretty.com และ loungelovers.com ทีย้ายมาจาก Magento และ Wordpress เนื่องจาก ออกบูธบ่อย มีพนักงานขาย ต้องการใช้ Shopify POS และชอบ Shopify ที่ดูแลบริหารจัดการสินค้าและอับเดทสต็อกสินค้าได้ง่าย

ยังมีร้านที่ไม่สามารถเอ่ยนามได้อีก ที่ย้ายมาเพราะ Shopify เป็นระบบที่หน้าเว็บทำให้ responsive ได้สวยงามเข้ากับทุกอุปกรณ์ คือระบบไหนก็ responsive ได้ แต่ระบบที responsive และสวยมากพร้อมรองรับ Mobile Commerce อย่างแท้จริงคือ Shopify

สาเหตุอีกอย่างคือระบบ Notification ทั้งทาง E-Mail, มือถือ และ Desktop รวมถึง Shopify App ที่โดดเด่น ทำให้เจ้าของร้านไม่พลาดทุกออเดอร์ จุดนี้เราได้รับทราบจากปากของลูกค้าที่ย้ายมาใช้งาน Shopify เอง ไม่ได้อยู่ๆก็คิด ก็เขียนขึ้นมาเอง จินตนาการเอง ทุกอย่างนี้ล้วนเป็นสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นจริง ในวงการ Ecommerce เมืองไทย และกำลังคืบคลานเข้ามาอย่างรวดเร็ว 

เป็นไปตามคาดการ์ณที่ผมเห็นระบบ Shopify เมื่อหลายปีทีแล้ว ในตอนที่ยังไม่มีใครพูดถึง Shopify ไม่ค่อยมีใครทำ Shopify ผมคิดไว้แล้วว่า อนาคตระบบนี้ล่ะจะเป็นระบบที่มาแรงที่สุดแบบฉุดไม่อยู่และทั่วโลกจะมีคนใช้งานเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล ในประเทศไทยเองก็จะมีคนใช้งานจำนวนมาก บล็อกทุกบล็อกที่เกี่ยวกับไอทีและอีคอมเมริซ์ จะมีการพูดถึง Shopify ในวงกว้าง เว็บบอร์ดจะมีเรื่องราวของ Shopify อีกทั้งเรื่อง Multi channel ecommerce ที่ผมคาดว่าจะเห็นในเมืองไทย ณ ตอนนั้นผมอยากเป็นผู้สร้างมัน แต่ไม่สามารถทำได้ ได้แต่คิดในใจว่าถ้าไม่ใช่เราทำก็จะมีคนอื่นทำอยู่ดีหลังจากนั้นไม่นานเพียง 2-4 ปีก็มีระบบใหม่นี้เกิดขึ้นในเมืองไทยตามที่ผมคิด ทั้งด้าน Auto Fulfillment - Shipping & Tracking และ E-Market place ซึ่งต่างประเทศมีมาได้สักพักใหญ่แล้ว แต่เมืองไทยพึ่งมามีได้ไม่นาน

Omise ต่อกับ Shopify

และเดือนมีนาคม 2018 ที่ผ่านมา Omise ได้เปิดตัว plug in payment gateway ตัว BETA

Shopify payment gateway

ใช้งานได้กับ Shopify ด้วยแล้ว ซึ่งในขณะเริ่มต้นยังสนับสนุนแค่สกุลเงินไทยบาท

Omise ต่อกับ Shopify มีฟังก์ชั่นเพิ่ม

หลังจากนั้นไม่กี่เดือนคือ เดือนมิถุนายน 2018 ระบบ Omise ก็รองรับสกุลเงินหลักเพิ่มขึ้น และมาพร้อมกับ function เพิ่ม

Shopify ต่อกับ Omise รองรับสกุลเงินเพิ่ม

ซึ่งจุดนี้ยิ่งเสริมให้ Shopify เป็นระบบ Ecommerce ที่สมบูรณ์และแข็งแกร่งขึ้น เนื่องจาก สามารถเชื่อมต่อกับ payment gateway ของเมืองไทยได้แล้ว

ลูกค้าที่ใช้บริการกับเราเนื่องจากทางเรามีความเชี่ยวชาญเฉพาะ Shopify เป็นพิเศษ และทีมเรามีความคุ้นชินกับระบบ สามารถให้คำปรึกษาและช่วยแก้ไขปัญหาทางเทคนิคได้ โดยมีประสบการณ์ในการช่วยแนะนำและแก้ไขมาแล้วในหลากหลายกิจการ ครอบคลุมอุตสาหกรรมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น เสื้อผ้า แฟชั่น, เครื่องประดับ, ของใช้ภายในบ้าน, เครื่องสำอางค์, เฟอร์นิเจอร์, กระเป๋า,รองเท้า,แพ็คเกจจิ้ง, และนำเข้าส่งออก เป็นต้น

เมื่อไม่นานมานี้เราได้มีโอกาส set up เว็บ Shopify สองภาษาแบบ detect ip ของผู้เข้าชมเว็บ เช่นในเมืองไทยจะแสดงภาษาไทยและต่างประเทศทั้งหมดจะแสดงภาษาอังกฤษ รวมทั้งใช้งานระบบ Omise Payment Gateway 

สำหรับท่านที่ต้องการขายสินค้าไปประเทศจีน ท่านสามารถทำเว็บเป็นภาษาจีนและทดลองต่อกับ Alipay หรือ WeChatPay ได้ ขณะนี้ยังอยู่ระหว่างการทดลอง ส่วนในประเทศจีน มีการต่อ Shopify กับ Alipay ได้แล้ว ซึ่งตอนนี้ทางเรามีร้านขายสินค้าไปประเทศจีนทดลองอยู่หนึ่งร้าน

ทางเรามีงานทั้งที่ปรึกษา Set up และ Development (coding) อย่างต่อเนื่อง นั่นคือทีมเรามีประสบการณ์อย่างต่อเนื่องไม่ขาดช่วงสามารถขอชมผลงานต่างๆได้ เป็นสาเหตุที่ลูกค้าเลือกใช้บริการกับทีมเรา

ติดต่อเราเพื่อรับบริการที่ปรึกษา เขียนโค๊ด หรือ set up เว็บด้วย Shopify 

WhatsApp business +66 81 573 6943 , LINE ID: @jadecommerce มี @ ข้างหน้า


Older Post Newer Post


Leave a comment

Please note, comments must be approved before they are published